🚚 Load Securement Training ความปลอดภัยในการผูกรัดและการบรรทุก
สไลด์ 1 / 11 • ใช้ปุ่ม ◀ ▶ หรือคลิกปุ่ม Next/Back

บทนำ: ทำไม “การผูกรัด” จึงสำคัญ

การบรรทุกและผูกรัดสินค้าไม่ใช่แค่ “ให้ของอยู่บนรถ” แต่คือ การบริหารความเสี่ยง ต่อชีวิต ทรัพย์สิน และชื่อเสียงองค์กรทั้งหมดบนถนน

  • การผูกรัดที่ผิดวิธี → วัตถุตกหล่น, รถเสียหลัก, พลิกคว่ำ
  • ความเสียหายไม่ใช่แค่สินค้า แต่รวมถึง ค่าซ่อมรถ, ค่ารักษาพยาบาล, คดีความ, และลูกค้าที่หายไป
  • แม้ไทยยังไม่มีมาตรฐานเฉพาะด้านนี้ชัดเจน แต่เราสามารถยกระดับตามแนวทางสากล เช่น IOGP, FMCSA
IOGP 365 – Land Transportation Safety FMCSA Cargo Securement Load Securement = Life Protection

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

  • เป็นแนวทางการผูกรัดวัสดุบนรถขนส่งตามหลักสากล
  • เป็นแนวทางการเลือกใช้อุปกรณ์ผูกรัดให้ถูกต้องและเหมาะสม
  • ผลักดันให้การผูกรัดที่ถูกต้องเป็นมาตรฐานในองค์กรและอุตสาหกรรม
  • ทำให้พนักงานขับรถ / ผู้ควบคุมการขนส่ง เข้าใจเทคนิคจัดวางและผูกรัดจริง

เหมาะสำหรับใครบ้าง?

  • ผู้จัดการ / หัวหน้างานขนส่ง
  • พนักงานขับรถบรรทุก รถลาก รถเทรลเลอร์
  • พนักงานวางแผนการขนส่ง และเจ้าหน้าที่ประสานงาน
  • เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.)

ประเภทของการผูกรัด (Load Restraint Methods)

  • Tie-Down Method – รัดทับสินค้าเพื่อเพิ่มแรงเสียดทานระหว่างสินค้าและพื้น
  • Direct Restraint – ยึดโดยตรงจากจุดยึดของสินค้าไปยังจุดยึดบนรถ (เหมาะกับเครื่องจักร/รถ)
  • Combination – ใช้ทั้ง Tie-Down + Direct เพื่อเพิ่มความมั่นคง

แนวคิดง่าย ๆ: Tie-Down = ใช้แรงกด + แรงเสียดทาน / Direct = ใช้สายรัดรับแรงโดยตรง

อุปกรณ์ผูกรัด & Working Load Limit (WLL)

  • สายรัดผ้าใบ (Webbing Strap) – ใช้กับพาเลท/กล่อง/โหลดทั่วไป
  • โซ่ (Chains) – ใช้กับเครื่องจักร/เหล็ก/โหลดหนัก
  • Ratchet / Winch – ใช้ปรับความตึงของสายรัด
  • Hook, D-Ring, Anchor Point – จุดยึดที่ต้อง ผ่านการออกแบบและรับแรงได้จริง

หลักการสำคัญ: Aggregate WLL ของระบบผูกรัดทั้งหมดควร ≥ 50% ของน้ำหนักสินค้า

ตัวอย่างคำนวณ 1: จำนวนสายรัดที่ต้องใช้

โจทย์: สินค้าน้ำหนัก 10,000 kg ต้องการแรงผูกรัดแนวดิ่งอย่างน้อย 50% ของน้ำหนัก ใช้สายรัดที่มี WLL = 2,500 kg

  • ต้องการแรงผูกรัดรวม = 10,000 × 0.5 = 5,000 kg
  • สายรัด 1 เส้นรับได้ 2,500 kg ⇒ อย่างน้อย 2 เส้น
  • เพื่อความปลอดภัย (เผื่อ 25%) ⇒ แนะนำใช้ 3 เส้น
Concept: Total WLL ≥ 50% of Load + Safety Margin

ตัวอย่างคำนวณ 2: มุมรัด & แรงที่เกิดขึ้น

โจทย์: แรงดึงในสายรัด = 2,000 kgf ที่มุมกับพื้น 60°

  • แรงแนวดิ่ง (กดสินค้า) Fv = 2,000 × sin(60°) ≈ 1,732 kgf
  • แรงแนวราบ (ดึงสินค้าไปด้านข้าง/ตามแนวสาย) Fh = 2,000 × cos(60°) = 1,000 kgf

มุมที่ต่ำลง (ใกล้พื้น) แม้แรงดึงเท่าเดิม แต่แรงกดแนวดิ่งจะลดลงมาก → ต้องใช้สายรัดมากขึ้นชดเชย

ตัวอย่างคำนวณ 3: แรงเสียดทานช่วยเราได้แค่ไหน?

สมการพื้นฐาน: Ff = μ × W

โจทย์: สินค้าน้ำหนัก 8,000 kgf วางบนพื้นไม้ μ = 0.4

  • Ff = 0.4 × 8,000 = 3,200 kgf
  • หากเบรกกะทันหัน หรือขึ้น-ลงเนิน แรงที่กระทำต่อสินค้าอาจเข้าใกล้ 0.8W
  • จึงควรใช้ Tie-Down เสริมให้แรงรวม (เสียดทาน + Tie-Down) ≥ 0.8W

ตัวอย่างเหตุการณ์จริง & บทเรียน

เหตุการณ์ สาเหตุ ผลลัพธ์ บทเรียน
ท่อเหล็กหล่นจากรถ มุมรัดต่ำ (≈ 30°), สายรัดน้อยเกินไป ท่อกลิ้งไปโดนรถคันหลังเสียหาย เพิ่มจำนวนสายรัด + ใช้มุม ≥ 60° + บล็อกกันกลิ้ง
ตู้ไม้เลื่อนไปชนหัวรถ ไม่มีแผ่นกันลื่น, แรงเสียดทานต่ำ คนขับบาดเจ็บ, กระจกหน้าแตก ใช้ Rubber Mat + ผูกรัด Tie-Down พอเพียง
รถขุดไถลบน Lowbed ใช้ Tie-Down แค่ 2 เส้น, ไม่รัดที่จุดยึดโครงรถ เกือบตกท้ายเทรลเลอร์ขณะเบรก ใช้ Direct Restraint ≥ 4 จุด + ตรวจสอบจุดยึดทุกครั้ง

Cargo Checklist ก่อนออกเดินทาง

  • ✅ ตรวจสอบจุดยึด (Anchor Points) ว่าแข็งแรงและไม่มีรอยแตกร้าว
  • ✅ ตรวจสอบสายรัด/โซ่ว่าไม่มีรอยขาด ฉีก ขึ้นสนิมมากผิดปกติ
  • ✅ ตรวจสอบจำนวนสายรัดและมุมรัดว่าเหมาะสมกับน้ำหนักและรูปทรง
  • ✅ ตรวจสอบการกระจายน้ำหนักบนเพลา (Axle Load) ไม่เกินกำหนด
  • ✅ ตรวจสอบป้ายเตือนสินค้า (Symbols/Placards) โดยเฉพาะสินค้าพิเศษ/อันตราย

แนะนำให้ใช้ แบบฟอร์ม Transport Safety Checklist แนบกับเที่ยววิ่งทุกครั้ง

Workshop ภาคปฏิบัติ

  • ฝึกรัดสินค้า 3 รูปทรง:
    • กล่องบนพาเลท (Packs & Pallets)
    • ท่อ / ม้วนเหล็ก (Pipes, Coils)
    • รถขุดตีนตะขาบ / เครื่องจักรหนัก
  • วัดมุมรัดด้วยเครื่องมือ (หรือใช้เทคนิค 1:2 ≈ 25°)
  • วัดแรงดึงสายรัด (Tension Gauge) แล้วเปรียบเทียบกับ WLL

ผู้เข้าอบรมจะถูกประเมินจาก “ความถูกต้อง + ความปลอดภัย” ของการผูกรัดในแต่ละเคส

สรุป & แบบทดสอบหลังอบรม (Mini Quiz)

1) มุมรัด 45° ให้แรงแนวดิ่งประมาณกี่ % ของแรงดึงในสาย?
2) สินค้าน้ำหนัก 12 ตัน ใช้สายรัดที่มี WLL = 3 ตัน ต้องใช้กี่เส้น (ไม่เผื่อความปลอดภัย)?
3) การรัดแบบ Direct ต่างจาก Tie-Down อย่างไร?